“ICOการลงทุนรูปแบบใหม่ที่น่าจับตามอง”

IPO ต่างจาก ICO อย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า IPO และ ICO คืออะไร

    IPO หรือย่อมากจาก Initial Public Offering เป็นการระดมเงินทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์โดยการขายหุ้น ซึ่งเป็นวิธีการระดมทุนมาตรฐานของบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก 

    ICO หรือย่อมากจาก Initial Coin Offering เป็นการระดมเงินทุนรูปแบบใหม่ของบริษัทผ่านการขาย’สกุลเงินดิจิตอลของตัวเอง’ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ยกตัวอย่างโปรเจ็กต์ที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Ethereum, Gnosis เป็นต้น

    IPO และ ICO มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือการระดมทุนจากนักลงทุนมาเป็นเงินทุนในการดำเนินงานหรือขยายธุรกิจ

แต่สิ่งที่ต่างกันเลยคือ 

1.    IPO ผู้ซื้อจะได้รับเป็น “หุ้น” ทำให้ผู้ถือมีสิทธิ์ออกเสียงและได้รับเงินปันผล 

       ICO ผู้ซื้อจะได้รับเป็น ‘สกุลเงิน’ แสดงสิทธิได้หลากหลาย เช่น สิทธิในส่วนแบ่งจากรายได้ หรือการใช้บริการ (ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของบริษัท)

2.    IPO บริษัทมักจะทำธุรกิจอยู่แล้ว มีฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน ทำให้มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

       ICO มักเป็นบริษัท Startup อาจมีเพียงแนวคิดหรือแผนธุรกิจ ไม่มีข้อมูลผลการดำเนินงานในอดีต จึงมีความเสี่ยงมากกว่า

3.    IPO เป็นการระดมทุนโดยผ่านกลไกของตลาดหลักทรัพย์ ต้องมีผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงผู้ตรวจสอบบัญชี ช่วยกำกับดูแลผลประโยชน์ของนักลงทุน 

        ICO เป็นการระดมทุนผ่านระบบออนไลน์ ที่ทำให้ผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนทั่วโลกมาเจอกันโดยตรง โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางใด และไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานใด

4.    IPO เป็นการระดมทุนกับตลาดใดตลาดหนึ่ง จึงเป็นการจำกัดผู้ซื้อไปด้วยตามขอบเขตของตลาดนั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ลงทุนภายในประเทศที่บริษัทระดมทุน  

       ICO สามารถระดมทุนได้จากผู้ลงทุนทั่วโลก

5.    IPO มีหนังสือชี้ชวนและงบการเงินที่รับรองโดยที่ปรึกษาทางการเงินและผู้สอบบัญชี 

       ICO มี Whitepaper ซึ่งบอกข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ รูปแบบธุรกิจ และแผนการเสนอขาย 

6.    IPO ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์

       ICO ยังเป็นรูปแบบการระดมทุนที่ใหม่มาก ทำให้ยังไม่มีกฎหมายมารองรับในหลายๆประเทศ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมข้ามประเทศจึงอาจมีข้อจำกัดด้านความคุ้มครองตามกฏหมายอยู่มาก

7.    IPO มีความเสี่ยงในเรื่องของราคาหุ้นที่ขึ้นลงก็จริง แต่ไม่มากเท่าความเสี่ยงของ ICO

       ICO มีความเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาสกุลเงิน ความเสี่ยงที่สกุลเงินจะไม่ถูกจัดเข้าตลาดซื้อขาย หรือแย่ไปกว่านั้นกลายเป็นข้อมูลขยะในกรณีที่โปรเจกต์ของบริษัทนั้นล้มเหลว รวมไปถึงความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อกลโกงทางออนไลน์

8.    IPO ใช้เวลาดำเนินการนานเป็นปี เนื่องจากมีเอกสารการจัดโครงสร้างบริษัท การทำบัญชีให้ถูกต้องตามมาตรฐานและอื่นๆ ที่ต้องได้รับการตรวจสอบจากบริษัทหลักทรัพย์ก่อน 

       ICO มีความโปร่งใสสูง ง่ายกว่าและมีความรวดเร็วมาก อันเป็นคุณสมบัติของระบบ Blockchain สามารถระดมเงินทุนจำนวนมากได้เพียงแค่เสี้ยวนาที 

9.    IPO ต้องดำเนินการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ จึงอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้าเกินจำเป็น 

       ICO ต้นทุนต่ำกว่าการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น รวมถึงไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก จึงเปิดโอกาสให้บริษัทที่ขนาดไม่ใหญ่มากสามารถระดมทุนได้ง่ายกว่า



ช่องทางการติดต่อ

✓ Line@ : @Mi-six หรือ http://goo.gl/SJYG8P

✓ เบอร์โทรศัพท์: 084-446-6489

✓ เว็บสินค้า :https://www.mi-six.com/